“หมอธีระวัฒน์” เผยข้อมูล คนเคยปลูกฝีกันไข้ทรพิษ ช่วยป้องกันฝีดาษลิงนาน 88 ปี

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ เผยข้อมูลจากคุณหมอ judd chontavat ระบุว่าคนเคยปลูกฝีกันไข้ทรพิษช่วยกันฝีดาษลิงได้ เพราะภูมิอยู่นาน 88 ปี แม้จะไม่ได้ฉีดวัคซีนกระตุ้นก็ตาม วันนี้ (8 ส.ค.) เฟซบุ๊ก “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha” หรือ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปลูกฝี โดยระบุว่า ข้อมูลจากคุณหมอ judd chontavat คนปลูกฝีกันไข้ทรพิษ กันฝีดาษลิงได้ ภูมิอยู่นาน 88 ปี ข้อมูลนี้น่าสนใจมากครับ เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันจากการปลูกฝี (Immunity from smallpox vaccine) ใน Am J Med (American journal of medicine) ปี 2008 ทำการวัดระดับภูมิคุ้มกันต่อฝีดาษ (Vaccinua IgG) และความสามารถในการป้องกันโรค (neutralizing […]
บริการตรวจเลือด อัลไซเมอร์ หรือสมองเสื่อมอื่นๆ และระดับการทำลายสมอง

NEWS – TRC-EID THAI RED CROSS ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย Thai Red Cross Emerging Infectious Diseases Health Science Centre, King Chulalongkorn Memorial Hospital (trceid.org)
มาถูกทาง กินน้อยตายน้อยจากโควิด-19

รากฐานซึ่งนำมาถึงหลักการความเชื่อ จนกระทั่งถึงการประพฤติและปฏิบัติของการงดอาหาร เป็นระยะ หรือลดอาหาร จนกระทั่งถึงการกินเข้าใกล้มังสวิรัตินั้น มาจากการที่มีกลไกในการปรับการใช้พลังงานโดยเผาผลาญกลูโคสและไกลโคเจน จนกระทั่งถึงกระบวนการในการสร้างกลูโคส หมด แล้วปรับเปลี่ยนโหมดเป็นการสร้างคีโตน ในขณะที่มีการผลิตคีโตนนั้น จะทำให้มีกรดไขมันซึ่งรวมถึงกรดไลโนลีอิก (linoleic acid) เพิ่มขึ้นในกระแสเลือด ทั้งนี้ กรดไลโนลีอิกนี้เองที่พิสูจน์แล้วในการทดลองรายงานในวารสาร Science ในปี 2020 ว่าจะไปจับกับโปรตีนหนาม สไปค์ของโควิดได้อย่างแน่นหนาและทำให้โควิดนั้นไปจับกับตัวรับในเซลล์ของมนุษย์คือ ACE2 ได้ลดลง ความสำคัญของตัวรับนี้คือเป็นตัวควบคุมการปรับเปลี่ยนให้กลไกเบี่ยงเบนเข้าหาระบบของการอักเสบหรือระบบที่ละลาย และต่อต้านการอักเสบ การงดอาหารยังส่งผลป้องกันในระยะยาวจากผลกระทบที่เกิดจากการติดเชื้อ ทั้งนี้ อธิบายจากการที่มีโปรตีน galectin-3 เพิ่มขึ้นโดยไม่เกี่ยวข้องกับการที่จะผอมลงหรือไม่ก็ตาม โดยเป็นผลจากการศึกษาที่มีชื่อว่า WONDERFUL trial (Water only fasting interventional trial) โดยออกแบบการศึกษาทอดระยะเวลายาวหกเดือนและในแต่ละอาทิตย์จะมีหนึ่งวันที่กินแต่น้ำอย่างเดียวเท่านั้น ตัว galectin-3 ที่ว่า ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคในช่วงที่มีการติดเชื้อในระยะเฉียบพลันโดยช่วยในระบบต่อต้านเชื้อโรคที่เป็นปราการด่านแรก innate immune system ทั้งผ่าน PRR และ DAMP และในระยะถัดมาหลังจากที่การติดเชื้อสงบไปแล้ว จะออกฤทธิ์ไปในทางสงบการอักเสบเรื้อรัง การอักเสบเรื้อรังในร่างกายที่เป็นผลตามจากการติดเชื้อหรือที่เกิดขึ้นในโรคเมตาบอลิก เช่น เบาหวาน และโรคหัวใจ […]
เบียร์มีหรือไม่มีแอลกอฮอล์ กลับบำรุงสุขภาพ

ข่าวล่ามาแรง รายงานในปี 2022 นี้เอง จนกระทั่งมีคำอุปมาว่า เบียร์วันละแก้วอาจช่วยไม่ให้ต้องพึ่งหมอ เหมือนกับที่เราเคยได้ยินได้ฟังว่า กินแอปเปิ้ลวันละลูก หมอไปไกลๆได้เลย ทั้งนี้ เป็นรายงานจากคณะผู้วิจัยจากประเทศโปรตุเกส ตีพิมพ์ในวารสาร Agriculture and food chemistry โดยเป็นการศึกษาวิจัยที่รัดกุมและมีตัววัดหรือประเมินโดยการวิเคราะห์จุลินทรีย์หรือแบคทีเรียในลำไส้ว่ามีความหลากหลายเพิ่มขึ้นหรือไม่ จุดประสงค์ใหญ่ของการศึกษาชุดนี้ น่าที่จะเป็นการประนีประนอมกันหรือไม่ กับกระแสการต่อต้านการดื่มแอลกอฮอล์ที่เริ่มออกมาว่าไม่ควรจะดื่มเลยแม้แต่จะน้อยนิดก็ตาม และในอีกประเด็นหนึ่งเพื่อที่จะพิสูจน์ว่า ตามตำนานความเชื่อที่ว่าเบียร์นั้นดีต่อสุขภาพ ช่วยระบบต่างๆจิปาถะ จริงไหม และถ้าเบียร์ที่ว่าดีนั้น เกิดดีจริง การที่มีแอลกอฮอล์เข้าไปอยู่ด้วยจะไปเจือจางความดีจนหายไปและกลายเป็นโทษอย่างเดียว ตามปกติ ในคำแนะนำของสหรัฐฯ ในปี 2020 ถึง 2025 Dietary Guidelines for Americans จะมีระดับของแอลกอฮอล์ที่สามารถบริโภคได้คือ วันละหนึ่งแก้วหรือหนึ่งดริ้งก์ นั่นก็คือมีปริมาณแอลกอฮอล์ 14 กรัมสำหรับผู้หญิง สำหรับผู้ชายนั้นสามารถขึ้นได้ โดยถึงสองดริ้งก์ต่อวันหรือเทียบเท่ากับ 28 กรัม โดยคิดง่ายๆก็คือ ผู้ชายเท่ากับสองกระป๋อง กระป๋อง 1 เท่ากับ 330 ซีซี ในขนาดแอลกอฮอล์คือ 4% […]
เพียงแค่กินพริก ก็ช่วยสมองได้

เรื่องของพริกน่าจะต้องย้อนกลับไปถึงตำนานของบุหรี่ ซึ่งเกิดปรากฏการณ์ประหลาดที่สังเกตว่าคนสูบบุหรี่แม้จะตายยับจากมะเร็ง ป่วยหลอดลม ถุงลมและโรคอื่นมหาศาล ทรมานตลอด แต่กลับมีโรคทางสมองเสื่อมน้อยกว่าและดูจะค่อยๆรุนแรงอย่างช้าๆ แต่เผอิญตายก่อนที่จะติดตามได้ชัดเจนเพราะโทษและพิษภัยของบุหรี่ ดังนั้นจึงเป็นที่มาในการตั้งสมมติฐานว่าในบุหรี่อาจมีสารบางอย่างที่ช่วยปกป้องสมอง ยกตัวอย่างเช่น นิโคติน และมีศึกษาติดตามระยะยาวของคนที่กินพริก รายงานในวารสารประสาทวิทยา (Annals of neurology) เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 พบว่า การกินพริก (ไม่ใช่พริกไทย) ทำให้ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคพาร์กินสัน พริกอยู่ในตระกูล Solanaceae (capsicum และ solanum) เช่นเดียวกับยาสูบ มีหลักฐานมากมายมหาศาลไม่ต่ำกว่า 60 รายงาน ที่พบว่าคนสูบบุหรี่มีโอกาสเป็นพาร์กินสันน้อยลง แต่ไม่มีใครอยากตายจากมะเร็ง โรคปอดจากการสูบบุหรี่ รายงานนี้จับประเด็นตรงที่พริกมีปริมาณนิโคตินสูง ดังนั้น อาจจะให้ผลเหมือนกับการสูบบุหรี่ จากการประเมินผู้ป่วยพาร์กินสัน 490 ราย เทียบกับคนปกติ 644 ราย เกี่ยวกับการรับประทานอาหารและชนิดของเครื่องปรุง พบว่าคนที่บริโภคพืชที่อยู่ในตระกูล Solanaceae สัมพันธ์กับการไม่เกิดโรคพาร์กินสัน แต่ชนิดของอาหารที่สำคัญที่สุดคือพริก และลดความเสี่ยงได้ถึง 30% แม้แต่มะเขือเทศจะอยู่ในตระกูลเดียวกัน แต่ประโยชน์ที่ได้ดูจะน้อยกว่าพริก ทั้งนี้อาจจะเป็นจากการที่มะเขือเทศมีปริมาณนิโคตินน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม […]
แม้แต่แมลงหวี่อกหักยังพึ่งเหล้า

หมอเองความจริงตกข่าวชิ้นนี้มาตั้งนานแล้ว โดยที่บทความตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำของโลก Science ตั้งแต่ปี 2012 เผอิญเพื่อนส่งมานัยว่า โดนที่บ้านต่อว่า ว่ากินเหล้าเยอะ เลยไปหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ มาชี้แจง เลยโดนลงโทษหนักเข้าไปใหญ่ ว่าไปอกหักที่ไหนมา เพราะแต่งงานกันมาหลาย 10 ปีแล้ว ถ้าอย่างนั้นมาเข้าเรื่องกันเลยแล้วกันนะครับ ในเรื่องของการติดเหล้า ในทางวิทยาศาสตร์สมอง เป็นเรื่องค้นคว้า วิจัย ศึกษากันมานาน ทั้งนี้ มีหลักฐานและคำอธิบายหลากหลายในเรื่องของเหล้า ซึ่งจะเป็นสิ่งทดแทนเหมือนกับให้ความสุขเป็นรางวัล หรือแม้แต่ทำให้รู้สึกสดชื่น รื่นเริง เบิกบาน ช่วยให้เข้าสังคมได้ง่ายขึ้น และอีกบทบาทหนึ่งเป็นเครื่องช่วยระบายความทุกข์ ระทม ขมขื่น คล้ายกับสโลแกนที่ว่า เครียดแล้วกินเหล้า กินต่อไปก็ยิ่งเครียด ในบทความนี้เองมาจากคณะทำงานที่มหาวิทยาลัย University of San Francisco แคลิฟอร์เนียสหรัฐฯ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ โดยได้พยายามที่จะอธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าว ที่จะทำให้เกิดความซ้ำซาก ตอกย้ำในพฤติกรรม และอาจนำไปสู่การติดเหล้า โดยการศึกษาสารสื่อประสาทและใช้แมลงหวี่ Drosophila melano gaster ซึ่งเป็นแมลงมาตรฐานที่เราใช้ในการศึกษาทางด้านระบบสมองและประสาท และพฤติกรรม ในการศึกษานี้พบว่า สารสื่อประสาทที่ชื่อว่า Neuropeptide F […]
“สูงวัย” เนือยนิ่ง ทอดหุ่ยกับสมองเสื่อม
“สว.” คือ “สูงวัย” จะมีพฤติกรรมชอบเนือยนิ่ง (Sedentary behavior) และเป็นที่ทราบชัดเจนแล้วว่า การนั่งหรือเอน ทอดหุ่ย ขี้เกียจ ดูแต่ทีวี งีบหลับเป็นพักๆ ทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตในทุกสาเหตุ ทำให้โรคเรื้อรังที่ไม่ติดต่อ ที่เราเรียกกันว่า NCD หรือโรคคาร์ดิโอเมตาบอลิก อันได้แก่ อ้วนลงพุง ความดันสูง เบาหวาน ไขมันสูง ไม่มีตัวดีมีแต่ไขมันเลว อีกทั้งมีโรคหัวใจและโรคเส้นเลือดในอวัยวะต่างๆ กลับรุนแรงมหาศาลขึ้น แต่ในทางกลับกัน การออกกำลังมีพฤติกรรมกระฉับกระเฉงกลับช่วยโรคเหล่านี้ทั้งหมด ตายก็น้อยกว่า อายุยืนยาวกว่า มิหนำซ้ำ สมองกลับดีอีกต่างหาก โอกาสที่จะพัฒนากลายเป็นสมองเอ๋อ กระทั่งถึงมีสมองเหี่ยวฝ่อ จนเข้าเกณฑ์สมองเสื่อมชัดเจน ช่วยตนเองไม่ได้ ขาดความมีเหตุมีผลในการตัดสินใจ เกิดคดีความฟ้องร้องในครอบครัว ลูกหลานจากการแย่งสมบัติและเกี่ยวเนื่องกับพินัยกรรมที่เห็นกันอยู่บ่อยๆ แต่กระนั้นก็ตาม ไม่ว่าจะทั้งขู่ทั้งปลอบให้กระฉับกระเฉง (physical activity) เคลื่อนไหว ออกกำลัง แต่ประชากร สว. จะด้วยทั้งมีข้อจำกัดทางกายภาพ ปวดเอวสะโพก เข่า รวมทั้ง ความขี้เกียจ และอ้างว่าทำงานมาทั้งชีวิตแล้ว ขออยู่เฉยๆบ้าง ปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลกและพฤติกรรมทอดหุ่ยจะพบมากกว่าครึ่งในผู้ใหญ่ ทั้งในยุโรปและในสหรัฐฯ […]
กำเนิดของโควิดเกี่ยวพันกับการศึกษาวิจัยในห้องแล็บ

Covid “most likely” เกิดจากการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับไวรัส research related activities มากกว่าที่จะเกิดจากธรรมชาติ (จาก senate วุฒิสภา สหรัฐฯ) 1.จุดแรกที่เกิดในคน อยู่ใกล้ Wuhan institute of Virology ตั้งแต่ตุลาคม 2019 2.Covid ยังไม่พบ intermediate host หรือสัตว์ตัวกลางใดๆ สำหรับค้างคาวมงกุฎิ พบไวรัสใกล้ covid แต่ไม่ใช่ covid และไม่เข้าคน ปกติแล้ว ไวรัสจากค้างคาวต้องผ่านสัตว์ตัวกลางเพื่อเพาะบ่มวิวัฒนาการระยะหนึ่งจึงจะมีความสามารถเข้ามนุษย์ได้ แต่ค้างคาวในพื้นที่ต่างๆที่ผ่านการสำรวจใน Yunnan ลาว มีแต่คล้าย covid และถ้ามีการผ่านตัวกลางจริงที่กลายเป็นโควิดบริเวณพื้นที่กว้างขวางเหล่านี้น่าจะมีคนที่ติดโควิดตั้งแต่ต้นในพื้นที่ต่างๆ และระยะเวลาต่างๆ เช่น ตัวอย่างที่เห็นในไข้หวัดนก avian flu H7N9 ในจีน ที่มีการกระจายทั่วไปในนกทั่วพื้นที่ก่อน จนมีการกระจายเข้าคนในพื้นที่ต่างๆ ณ เวลาต่างๆ หรือ MERS ก็ตาม หรือ SARS […]
เบาหวานสมองเสื่อม…ยาอะไรช่วยได้

เบาหวานจัดเป็นผู้ร้ายตัวสำคัญใครเป็นแล้วก่อให้เกิดผลร้าย ทั่วร่างกาย ทุกอวัยวะ และถ้าคุมไม่ดี ทั้งตาบอด ไตวาย เส้นเลือดตีบตันทั้งหัวใจสมอง จนกระทั่งเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะอื่นๆ ขาดำ เท้าดำ มือเท้าชา จากการที่เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงผิวหนังและเส้นประสาทได้พอเพียง และเบาหวานยังเกิดภาวะวิกฤติ เนื่องจากกลายเป็นคนเปราะบางเกิดมีสภาวะทำให้เครียด เช่น จากการติดเชื้อ โดยการที่เกิดมีน้ำตาลสูงเป็นหลายร้อย (hyperosmolar) โดยที่จะมีเลือดเป็นกรดและมีคีโตน (diabetic ketoacidosis) อยู่ด้วย หรือไม่ก็ตาม ทำให้หมดสติ ช็อก ตาย ถ้าช่วยไม่ทัน และอีกทั้งเบาหวานยังเป็นโรคกรรมพันธุ์ ถ่ายให้ลูกหลานได้ถ้วนหน้า ที่จะละเลยเสียมิได้ก็คือเบาหวานทำให้เป็นสมองเสื่อมได้ง่ายขึ้น ได้เร็วขึ้นกว่าปกติ จากรายงานต่างๆที่ผ่านมาพบว่า ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมีความเสี่ยงที่จะเกิดสมองเสื่อมทุกชนิด เพิ่มขึ้นได้ถึง 73% และความเสี่ยงที่จะเกิดสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์ สูงขึ้น 56% และสมองเสื่อมที่เกิดขึ้นจากเส้นเลือดตีบตันทั่วสมอง (vascular dementia) เพิ่มขึ้น 127% ยาที่ใช้รักษาเบาหวาน โดยที่ต้องควบคุมความประพฤติ ปฏิบัติตัวให้ดี ในการกินอาหารร่วมไปด้วย มีมากมายหลายหลากชนิดที่ออกมาในระยะหลังต่างก็เริ่มมีราคาแพงมหาศาล และยังต้องควบใช้หลายตัวด้วยกัน นัยว่า ช่วยกันต่อสู้หลายกลไก โดยไม่เกิดความเสี่ยงมากที่ทำให้น้ำตาลตกต่ำจนหมดสติไม่รู้ตัว และทำให้ระดับน้ำตาลลดลงรวมทั้งค่าน้ำตาลสะสมดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีข้อมูลชัดเจนว่าสามารถที่จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมได้ชัดเจน […]
ขาดการออกกำลัง…หัวใจเหี่ยวลีบ เล็ก วาย

ปกติแล้ว เราสนใจแต่การที่มีหัวใจโต ไม่ว่าจะตรวจจากการเอกซเรย์ปอดซึ่งดูรูปพรรณสัณฐานของหัวใจได้ จวบจนกระทั่งการดู เอคโค่ หัวใจ (echocardiogram) ที่บอกขนาด ความหนาของผนังหัวใจ และแรงดันในช่องต่างๆ จนกระทั่ง ความผิดปกติของการบีบตัวและคลายตัวของหัวใจ ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้นำไปสู่สภาวะหัวใจวาย โดยที่การบีบตัว ของหัวใจห้องล่างไม่เพียงพอหรือน้อยเกินไปที่จะส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆทั่วร่างกายได้ทำให้เกิด อาการเหนื่อยน้อยๆก่อน จนมากเหลือเกิน ที่อยู่เฉยๆก็เหนื่อย และมีน้ำคั่งเกิดน้ำท่วมปอด รวมถึงหัวใจห้องขวาอ่อนแอและเกิดการบวมกดบุ๋มตามขาตามแข้ง นอกจากนี้ยังมีความผิดปกติที่กล้ามเนื้อหัวใจคลายตัวไม่ดีด้วย ทั้งหมดนี้ แต่ก็เป็นเพียงผลตามที่สะสมมาเนิ่นนานจากโรคเมตาบอลิก อ้วนลงพุง ความดันสูง ไขมัน และมลพิษทั้งหลาย จนเกิดมีเส้นเลือดตีบในอวัยวะต่างๆรวมทั้งหัวใจและสมอง เป็นต้น แต่เรื่องที่จะเล่าวันนี้ ดูจะเป็นเรื่องที่พบมานานแล้ว แต่อาจไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไหร่ จนกระทั่งมีรายงาน ในวารสารของวิทยาลัย โรคหัวใจของอเมริกา (Journal of the American College of Cardiology) เมื่อวันที่ 5 กันยายนปี 2022 นี่เอง ผู้รายงานมาจากสถาบันวิจัยทางหัวใจของออสเตรเลีย และชี้ให้เห็นประเด็นของหัวใจวายอีกกลุ่มที่ดูเหมือนว่าการบีบตัวของหัวใจห้องล่างทางด้านซ้ายจะยังดูปกติ แต่ขนาดของหัวใจเล็กลง ดังนั้น เมื่อหัวใจเล็กลง แต่ละครั้งที่หัวใจบีบตัว ก็จะส่งเลือดได้น้อยลงมาก เช่น […]